เราได้ เงินเดือน เพื่อตอบแทน การทำงาน ดังนั้นเราจึงต้องปฏิบัติหน้าที่ ตามคำสั่ง รวมถึงต้องปฏิบัติตน ตามระเบียบข้อบังคับ ของบริษัท หากปฏิบัติไม่ถูกต้องตามระเบียบก็สามารถที่จะ ถูกลงโทษ ได้ งานในความหมายนี้เราถูกเรียกว่า “ลูกจ้าง” และบริษัทผู้จ่ายผลตอบแทนถูกเรียกว่า “นายจ้าง”
ส่วนงานที่ทำแล้วได้ผลตอบแทน โดยการทำงาน ไม่อยู่ภายใต้คำสั่งและไม่ต้องปฏิบัติตามระเบียบของ นายจ้างนั้น เรียกกันง่าย ๆ ว่าเป็น Freelance หรือ งานรับจ้างทำของ ไงล่ะครับ หมายความว่า ถ้าทำงานเสร็จแล้ว ก็ส่งมอบงานให้ เราถึงจะได้ค่าจ้าง หากรับจ้างแบบนี้ไปสัก 2-3 ปี เกิดวันดีคืนดีบริษัทเค้าบอกว่า ไม่รับงานเราแล้ว ทำไง! อย่างนี้เท่ากับ เลิกจ้างหรือไม่? ได้ค่าชดเชยหรือไม่?
กรณีแบบนี้ ผู้ทำงาน Freelance หรือ งานรับจ้างทำของ ไม่ได้ค่าชดเชย ครับ เนื่องจากการปฏิบัติงานเป็นอิสระของตัวเอง อีกทั้งไม่ได้อยู่ภายใต้ระเบียบข้อบังคับการทำงานของบริษัท ยกเว้นแต่มีการกำหนดที่สัญญากันไว้เป็นพิเศษ ก็ว่ากันตามสัญญานั้น แต่คงไม่มีบริษัทหรือนายจ้างคนไหนเขียนสัญญาจ่ายค่าชดเชยให้กับ Freelance แน่ๆ
[/] ดังนั้น ถ้าจะทำงานโดยให้มีความมั่นคงทางรายได้ คือได้รับค่าชดเชยเมื่อถูกให้ออกจากงาน ก็ต้องทำงานแบบเป็น ลูกจ้างอาชีพครับ หรือเรียกง่ายๆ ว่าเป็นพนักงานประจำของบริษัท (พนักงานประจำ ถ้าสรุปให้ง่ายคือ รับค่าจ้างเป็นเงินเดือน (เหมา30วัน) หรือ รับค่าจ้างรายวัน (วันไหนมาทำงานถึงได้เงิน) โดยนายจ้างจ่ายให้ตามรอบที่กำหนดแล้ว แบบนี้ถ้านายจ้างเกิดเลิกจ้างวันใดก็จะได้รับ เงินค่าชดเชย ครับ
ค่าชดเชย คือ “เงิน” ที่ลูกจ้างได้รับเมื่อถูกเลิกจ้าง แล้วเป็น “เงิน” เท่าไร?
ได้เท่าไรนั้นให้พิจารณาที่ จำนวนวันทำงานนับจาก วันเริ่มงานวันแรกถึงวันที่เลิกจ้าง ดังนี้
1. ทำงานครบ 120 วัน ได้ค่าชดเชย 30 วัน (หรือ 1 เดือน)
2. ทำงานครบ 1 ปี ได้ค่าชดเชย 90 วัน (หรือ 3 เดือน)
3. ทำงานครบ 3 ปี ได้ค่าชดเชย 180 วัน (หรือ 6 เดือน)
4. ทำงานครบ 6 ปี ได้ค่าชดเชย 240 วัน (หรือ 8 เดือน)
5. ทำงานครบ 10 ปี ได้ค่าชดเชย 300 วัน (หรือ 10 เดือน)
ฝ่าย…บุกคนขอบอกว่า “ทำงานที่ไหน ทำให้นานไว้ก่อน”
แต่ถ้าไม่จำเป็นอย่าให้ถูกเลิกจ้างเลยครับ
ได้ค่าชดเชย 10 เดือน ใช้ 10 วันหมด ผมเห็นมามากแล้ว!
กฎหมายแรงงาน(Labor law) คุ้มครองลูกจ้างครับ